“ลาแมร์” แบรนด์สกินแคร์สุดหรูผนึกกำลังกับเอเจนซีผู้เชี่ยวชาญในวงการความงาม เพื่อเฉลิมฉลองให้กับมรดก ศิลปะ และนวัตกรรมของ La Mer ในนครเซี่ยงไฮ้ ภายใต้การจัดแสดงงานชุด “Edge of the Sea”
School House ครีเอทีฟเอเจนซีจากนิวยอร์กผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ ความสร้างสรรค์ และแนวคิดธุรกิจค้าปลีกที่เข้ามากำหนดมุมมองสำหรับบรรดาแบรนด์ความงามระดับโลก ได้จับมือกับ La Mer เพื่อเปิดนิทรรศการแสดงผลงานตามแคมเปญ “Edge of the Sea” ณ พิพิธภัณฑ์ Power Station of Art ในนครเซี่ยงไฮ้ โดยแคมเปญที่เต็มไปด้วยความสมจริงและเปิดทุกประสาทสัมผัสของผู้ชมนี้จะพาทุกท่านไปดื่มด่ำกับเรื่องราวใต้ท้องทะเลที่เปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานและทรงพลัง รวมถึงบทบาทของทะเลในการค้นพบ เยียวยา และการระลึกถึง

School House เป็นหัวหอกในการออกแบบโครงการนี้ตั้งแต่คอนเซปต์งานไปจนถึงการจัดแสดงงาน โดยได้ร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ด้านการจัดไฟอย่าง Luciforma รวมถึงพาร์ทเนอร์ด้านโปรดักชันอย่าง APAX Group และผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคจาก Patten Studio เพื่อสร้างชีวิตชีวาให้กับแคมเปญการฉายภาพ 3 มิติของ La Mer อย่าง Edge of the Sea
ด้วยการจัดแสดงงานภายใต้ผืนผ้าใบของ Power Station of Art (ที่จัดแสดงผลงานศิลปะ Shanghai Biennale) Edge of the Sea ได้ผสานแรงบันดาลใจจากพลวัตอันทรงพลังและนวัตกรรมสุดสร้างสรรค์จากสองพลังเข้าด้วยกัน จากแสงแดดที่สาดแสงส่องประกายให้กับเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง จนถึงความประทับใจที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Max Huber มีต่อท้องฟ้าและทะเล ทางผู้จัดจึงได้เฉลิมฉลองให้กับผลิตภัณฑ์ซิกเนเจอร์ของแบรนด์อย่าง Creme de la Mer ผ่านการเล่าเรื่องด้วยผลงานศิลปะสุดตื่นตาตื่นใจ
ด้วยแรงบันดาลใจจากการผนึกกำลังของสองมุมมอง ผลงานจากช่างภาพสองพ่อลูกอย่าง Mario Sorrenti และ Gray Sorrenti จึงกลายมาเป็นหัวใจสำคัญในทุกจังหวะการเคลื่อนไหวของงานในครั้งนี้ ด้วยพลังของคนสองรุ่นและมุมมองที่แตกต่างกัน ครอบครัว Sorrenti จึงได้จับภาพความเคลื่อนไหวและอิทธิพลที่ไม่มีที่สิ้นสุดของท้องทะเลและชายฝั่งจากจินตนาการของแต่ละคน ทั้งนี้ School House ได้แขวนวงแหวนเพื่อฉายผลงานของสองพ่อลูกบ้าน Sorrenti ซึ่งผู้เข้าชมสามารถเดินเข้ามาข้างใน เพื่อนั่งชมภาพและเสียงที่ปรากฏให้เห็นความทรงจำจากท้องทะเลของสองพ่อลูกได้แบบ 360 องศา
ทางผู้จัดได้เติมสีสันเพื่อสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับการจัดแสดงงานครั้งนี้ ผ่านสื่อดิจิทัลและการสัมผัส ซึ่งรวมถึงการดื่มด่ำและการมีปฏิสัมพันธ์ไปกับผลงานภายใต้ทางเดินที่จะนำไปสู่การค้นพบใหม่ ๆ โดยการจัดแสดงงานครั้งนี้ได้ผสานองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เรียบง่ายและทรงพลัง ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชมได้ดำดิ่งไปกับโลกของ La Mer
ตั้งแต่การทดลองของ Max Huber ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ในการสกัด Miracle Broth ราว 6,000 ครั้ง ไปจนถึงประสบการณ์ดิจิทัลที่เผยให้เห็นป่าสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลที่พริ้วไหวอย่างต่อเนื่อง และเกลียวคลื่นที่รังสรรค์ขึ้นจากผ้าไหม การจัดแสดงงาน Edge of the Sea จึงพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากการจัดแสดงงานครั้งนี้จะพาทุกท่านไปปีน ขุด และผจญภัยไปโดยปราศจากทิศทาง เพื่อค้นหาความสุขแห่งท้องทะเลและแผ่นดิน และค้นพบสิ่งต่าง ๆ ที่หาได้จากขอบจินตนาการของเราเท่านั้น
Edge of the Sea เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 9 ถึง 23 ตุลาคม ณ พิพิธภัณฑ์ Power Station of Art นครเซี่ยงไฮ้
School House มีสำนักงานอยู่ที่ 20 West ถนนหมายเลข 22 นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อที่อีเมล express@weareschoolhouse.com หรือเว็บไซต์ www.weareschoolhouse.com
ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเราได้ทาง Instagram @schoolhousenyc โดยใช้แฮชแท็ก #lamerxsorrenti และ #lovelamer
เกี่ยวกับ School House
School House เป็นครีเอทีฟเอเจนซีที่ก่อตั้งโดยอดีตผู้บริหารของ LVMH อย่าง Christopher Skinner บริษัทมีความเชี่ยวชาญในด้านกลยุทธ์ การสร้างความมีส่วนร่วม และสภาวะแวดล้อมที่เปิดทุกประสาทสัมผัสให้กับแบรนด์ความงามระดับโลก โดยใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ด้านความงามที่สั่งสมมาเป็นเวลาหลายปีในการเปลี่ยนแบรนด์ให้กลายเป็นที่รักของลูกค้า พร้อมสร้างผลลัพธ์ที่วัดผลได้ รวมถึงการมีส่วนร่วมกับลูกค้ามากขึ้น
School House มุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่เสมือนครีเอทีฟสตูดิโอแบบอินเฮาส์ ที่มีความสามารถเฉพาะทางในหลากหลายสาขาอันเป็นที่ต้องการในตลาดความงามปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์แบรนด์และการค้า การสร้างแบรนด์และวางภาพลักษณ์ ครีเอทีฟโปรดักชัน การวางสื่อดิจิทัลและโซเชียล การออกแบบทางอุตสาหกรรม การออกแบบตกแต่งหน้าร้าน และการออกแบบสถาปัตยกรรม
ลูกค้าของเราประกอบด้วย Dr. Dennis Gross Skincare, Kevyn Aucoin Beauty, Amore Pacific Luxury Group, Malin + Goetz, Tata Harper Skincare, L’Occitane en Provence, Clark’s Botanicals, Eve Lom และ Volition Beauty
cr: พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์