กลับมาอีกครั้ง ! กับกระเป๋ารุ่นไอคอนนิคที่ ผสานทั้งความคิดสร้างสรรค์ และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกัน
Furla ฉลองครบรอบ 10 ปีของกระเป๋าถือ รุ่นไอคอนนิค ”Candy” ในช่วงมิลานแฟชั่นวีค ( Milan Fashion Week) ที่ผ่านมา โดยได้กลับมาอีกครั้งภายใต้ชื่อ “Re-Candy” ที่ผสมผสานความคลาสสิกของแบรนด์ เข้ากับนวัตกรรมใหม่ที่ใส่ ใจและให้ความสำคัญต่อสั งคมและอนาคต
“Re-Candy” ถือเป็นกระเป๋ารักษ์โลกใบแรกของ Furla ที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และดี ไซน์ร่วมสมัยตามแบบฉบั บของแบรนด์ โดยถือเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่ างบริษัทอิตาลีหลายแห่งที่ให้ ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้ าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Re-Candy ได้รับการออกแบบโดยมีแนวคิดเกี่ ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นหั วใจสำคัญ ซึ่งสนับสนุนโดย Nativa บริษัทด้านการออกแบบวิถีใหม่ที่ ช่วยผลักดันแบรนด์ไปสู่การเปลี่ ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ โดยมีแนวทางการขับเคลื่อนจุดมุ่ งหมายของแบรนด์ไปพร้อมๆกับการพั ฒนาอย่างยั่งยืน ตัวกระเป๋า Re-Candy ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลซึ่ งควบคุมการผลิตโดยบริษั ทจากประเทศอิตาลี โดยกระบวนการผลิตทั้งหมดถูกขั บเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ผ่ านการรับรองแล้ว
ทุกองค์ประกอบของกระเป๋ารุ่น Re-Candy ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากแนวคิ ดเรื่องความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นป้ายที่ ทำมาจากกระดาษซึ่งได้รับการรั บรองมาตรฐานจาก FSC (Forest Stewardship Council) หรือองค์การจัดการด้านป่าไม้ รวมถึงถุงผ้าคลุมกระเป๋าที่ผลิ ตจากฝ้ายรีไซเคิลย้อมด้วยสี ธรรมชาติ หรืออุปกรณ์เสริมและสายสะพายที่ ทำจากวัสดุรีไซเคิลทั้งหมด นอกจากนี้ ชื่อ Re-Candy และโลโก้แบรนด์ยังถูกสลักเป็ นลายนูนออกมาจากตัวกระเป๋าเพื่ อหลีกเลี่ยงการใช้หมึกพิมพ์ที่ ก่อให้เกิดมลพิษอีกด้วย โดยกระเป๋ารุ่น Re-Candy มีหลายสีสันให้เลือกตั้งแต่สี ชมพู สีม่วง ไปจนถึงสีส้ม และสีเขียวมะนาว
แม้ Re-Candy จะมีความทนทานเหนือกาลเวลา แต่เมื่อสิ้นสุดอายุขัยการใช้ งาน ตัวกระเป๋าก็สามารถนำไปรีไซเคิ ลได้ทั้งใบ ซึ่งตอกย้ำเป้าหมายด้านความยั่ งยืนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Furla ยังได้จัดแสดงกระเป๋าในรูปแบบ See Now Buy Now รวมถึงได้มีการร่วมพูดคุยเกี่ ยวกับประเด็นของสิ่งแวดล้อมในมิ ลานระหว่างช่วงมิลานแฟชั่นวีคอี กด้วย
เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสมดุ ลของไลฟ์สไตล์แบบคนเมื องและความสงบสุขของธรรมชาติ บริเวณที่จัดแสดงได้ถูกตกแต่งด้ วยดอกไม้ขนาดใหญ่หลากสีสัน และเพื่อให้สอดคล้องกั บเจตนารมณ์ของแบรนด์ การจัดแสดงในครั้งนี้จึงเปรี ยบเสมือนเครื่องมือสำคัญที่จะช่ วยกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ ยนทางความคิดเพื่อต่อยอดไปสู่ การพัฒนาทางสังคมและการเปลี่ ยนแปลงที่ดีในอนาคตอีกด้วย