Art Exhibition~ The 51 Tasty Moments สุขุมวิท ซอย 51
#MadamePuja อยากชวนไปชมภาพวาดสวย ๆ ที่มีอินสไปร์มาจาก”ภาพพุทธปรัชญา” ด้วยฝีมือสะปัดแปรงระดับพระกาฬ โดยศิลปินดัง ชื่อ “อาจารย์ประพันธ์ หมื่นเผือ” เป็นศิลปินที่พูดน้อยเพราะเอาใจทั้งดวงไปครีเอทงานศิลปะค่ะ ซึ่งงานแสดงภาพในครั้งนี้จัดโชว์ที่ห้องอาหาร “The 51 Tasty Moments” สุขุมวิท 51 ค่ะ เรียกว่ามานั่งชิล ๆ ดื่มกาแฟ ชิมอาหารอร่อย ในบรรยาศสบาย พร้อมชมภาพงาม ๆ ได้ในที่เดียวกัน หากถูกใจผลงานชิ้นไหนก็สามารถซื้อกลับบ้านได้เลย……. ซึ่งที่ “The 51 Tasty Moments” จะมีนิทรรศการภาพใหม่ ๆ หมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกเดือนค่ะ

ทั้ง 3 ภาพด้านบนนี้ อยู่ในงานซีรีย์ชุดที่ชื่อ “บรมสัจจะ” อันเป็นความจริงอันสูงสุดในทางพุทธศาสนาและพุทธ ปรัชญา(เถรวาท) ในภาพ จะแสดงให้เห็นถึง ภาพการเกาะเกี่ยวกันเป็นสายแทนรูปและนาม ไหลเข้า-ออกไปในตัวคน สื่อถึงการเป็นปัจจัยให้กันและกัน ก่อให้เกิดสิ่งหนึ่งขึ้นมา การเกาะเกี่ยวเนื่องกันเป็นสายนี้ทางจิตใจนั้นเรียกว่า กฎของปฏิจจะสมุปบาท ทางรูปนั้นเรียกกฏอิทัปปัจจยตา ถ้าหากผู้ใดเข้าใจและเห็นแจ้ง ในสภาวะการปรุงแต่งนั้น ยอมพบกับความเบาสบาย ในสังขารนั้นๆ

ค่ะภาพสวยๆ ด้านบน เป็นผลงานรังสรรค์ด้วยสไตล์ที่มีเอกลักษณ์ ของ “ประพันธ์ หมื่นเผือ” สมาชิก “ศิลปิน ๒ รัชสมัย” ได้นำผลงานศิลปะที่มีแรงบันดาลใจมาจากพุทธปรัชญาเถรวาท มาร่วมจัดแสดงกลางกรุง ประพันธ์ หมื่นเผือ เป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อสะสม-ประดับตกแต่ง เป็นศิลปินมากฝีมือ ครั้งนี้ได้นำภาพวาด 8 ผลงานที่สะท้อนด้วยพุทธปรัชญา มาแสดงที่ห้องอาหาร “The 51 Tasty Moments” สุขุมวิท ซอย 51 โดยริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป สามารถชมฟรี!
#MadamePuja ต้องขอขอบคุณ คุณเอิร์ธ สายสว่าง และ ดร.จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ อดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษฯ ในฐานะผู้ประสานงานการจัดนิทรรศการ Art Exhibition~ The 51 ที่ชวนมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
ศิลปิน : ประพันธ์ หมื่นเผือ เล่าว่า “เท่าที่สังเกตุดูวงการศิลปะในบ้านเรามีความตื่นตัว พัฒนาและขยายวงกว้างมากขึ้น อาจเป็นด้วยเรื่องการสื่อสารที่รวดเร็วและเข้าถึงง่ายทำให้ทั้งคนทำงานศิลปะและคนเสพงานมีโอกาสคุยกันแลกเปลี่ยนทัศนะกันง่ายมากขึ้น…โดยส่วนตัวแล้วผมเข้าใจว่าทุกอาชีพ ทุกวงการล้วนแล้วแต่มีอุปสรรคที่แตกต่างกันไป หลาย ๆ คนที่เป็นศิลปินอาชีพต้องอาศัยทั้งทักษะรอบ ๆ ด้านและความอดทนถึงจะยืนอยู่บนเส้นทางในสายอาชีพของตนเองได้ แต่กระนั้นก็ยังคงต้องการแรงสนับสนุนที่ดีหลายๆด้านเพื่อให้งานศิลปะในบ้านเรามีการพัฒนางานและเติบโตได้มากขึ้น ครับ”
“….ส่วนตัวแล้วชอบงานศิลปะทุก ๆ แนวที่เลือกทำงานศิลปะในแนวนี้ อันแรกคงเป็นผลมาจากการที่เราได้ศึกษาพุทธปรัชญาเถรวาทจากการอ่านการฟัง และนำมาปฏิบัติบ้างตามโอกาสที่อำนวย เห็นว่าจะมีประโยชน์มากถ้านำความรู้และประสปการณ์ ที่มีและได้ประสบมา เผยแผ่ในรูปแบบของศิลปะ เพื่อ ให้เข้าถึงผู้คนได้ง่าย และจะเป็นสะพานเชื่อมโยง ให้ ผู้ที่ได้ชม และสนใจเดินเข้าสู่เส้นทางธรรม มากยิ่งขึ้น อันเป็นบทบาทหนึ่งของพุทธบริษัท เป็นหน้าที่ที่พึงกระทำครับ.”

Medium : Acrylic on Canvas
Size : 60 x 80 cm.



ชื่อภาพ”เห็นธรรม”
การศึกษาธรรม ทั้งทางปริยัติและ ปฏิบัติ ทำให้เราได้เห็นความจริงของธรรมชาติ ว่าเป็นเช่นไร จะทำให้เราอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างปกติสุข เบาสบาย


สภาวะธรรม #4 : ภาพนี้สื่อถึงความจริงของธรรมที่ว่า สรรพสิ่งต่างๆล้วนเกิดขึ้นจากธาตุทั้ง 4 อันได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ รวมกันทำให้เกิดรูป ทั้งที่มีใจครองและไม่มีใจครองหรือในทางกลับกัน หากธาตุทั้ง 4 กลับสู่สภาวะเดิม รูปนั้นก็ย่อมแปรผันเช่นกัน หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่ามหาภูตรูป
“..สำหรับงานศิลปะในอนาคต ผมคิดว่าคงคาดการณ์ยากครับ เพราะงานศิลปะเป็นงานสร้างสรรค์เกี่ยวกับความคิดของคน การถ่ายทอดออกมาในผลงาน คงจะเป็นไปตามสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อม ในขณะนั้น แต่ในความคิดผมคิดว่าคงเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะว่าปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้การไหลเวียนของวัฒนธรรมทุกซีกโลก ขับเคลื่อนถ่ายเทไปมาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งย่อมมีผลกับการเรียนรู้เปลี่ยนแปลงความคิดและประสบการณ์อย่างแน่นอนครับ ในส่วนตัว ของผมแล้วคงใช้ Concept เดิม คือ พุทธปรัชญา เถรวาท มาเป็นข้อมูลอ้างอิงในการสร้างสรรค์งาน แต่อาจจะออกมาในรูปแบบของทัศนธาตุทางศิลปะอื่นๆ นอกจากงานเพ้นท์ เช่น งานประติมากรรม หรืองานสื่อผสมครับ”
ชื่อภาพ: “อนันต์สู่อนันต์”
… ภาพนี้เป็นเทคนิคสื่อผสม ผมใช้เครื่องดนตรีเป็นตัวแทนในการถ่ายทอด เสียงที่ออกมาจากเครื่องดนตรีที่ยิ่งตียิ่งดีดหรือยิ่งเป่าเสียงก็ออกมาไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เคยเต็มในแดนอากาศ เปรียบเสมือนกับการเกิดที่ยิ่งเกิดก็ยิ่งดับตามมาเป็นลำดับ ไม่มีที่สิ้นสุด เช่นกัน

ภาพ consciousness หมายเลข #1และ#2 สื่อถึงการมีสติ รับรู้ถึงสภาวะภายในตัวตนของเรา ว่ามีความรู้สึกอย่างไรเช่น กลัว โกรธ ฟุ้งซ่าน หลงลืมตัว ในขณะใดขณะหนึ่ง



“….ขอขอบคุณ บุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบงานศิลปะนะครับ คนที่ชื่นชอบงานศิลปะก็คงมีความคิดคล้าย ๆ กับคนทำงานศิลปะเพราะชอบในศิลปะเหมือน ๆ กัน เพียงแต่อาจมีข้อแตกต่างกันตรงที่โอกาส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทักษะ หรือโอกาสในการสร้างสรรค์งาน แต่เราก็คงเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันและกัน โอบอุ้มช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ เพื่อให้โลกน่าอยู่งดงามด้วยศิลปะครับ”

โดย ประพันธ์ หมื่นเผือ ศิลปิน 2 รัชสมัยแสดงที่ห้องอาหาร “The 51 Tasty Moments” สุขุมวิท ซอย 51ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ศกนี้เป็นต้นไปติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ดร.จินดารัตน์โทร. 092 446 5155
ART EXHIBITION @ “51”
Prapun Muenpua, who does made-to-oder paintings to decorate homes and offices, is a member of the “Artists of the 2 Reigns”. He will exhibit six of his paintings with Buddhist Philosophy, as of 1 March 2020, at the “51 Tasty Moments” restaurant, Sukhumvit soi 51 Road. All the Art Lovers are cordially invited for viewing of this extra-ordinary reasonably-priced collection. For additional information, please contact Dr. Jindarat at tel. 092 446 5155.
++++++++++++++++++++++++++=
ประวัติศิลปิน
ประพันธ์ หมื่นเผือ
- เกิด 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2510
- การศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
การแสดงผลงานที่ผ่านมา
-นิทรรศการศิลปกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ครั้งที่ 10-14
-นิทรรศการกลุ่มพดด้วง ครั้งที่ 1
-นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
-นิทรรศการธรรมศิลป์นานาชาติ เพื่อพ่อหลวง
-นิทรรศการจิตรกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ
-นิทรรศการ ธารศิลป์รักษ์จิตรกร
-นิทรรศการ ศิลปาศรี
-นิทรรศการ ธรรมศิลป์ ศิลปะเพื่อพระธรรม
-นิทรรศการ สินธร ศิลปะ ออมศิลป์ โดยกลุ่มพดด้วง
-นิทรรศการ “งดงามในความพอเพียง” (Beautiful Sufficiency)
++++++++++
ผลงานของ”ศิลปินประพันธ์” ที่ผู้ชื่นชอบได้ซื้อไปสะสม
♡♡ สั่งภาพวาด..ติดต่อศิลปินปร
โทร. Tel. +66 (0) 89 176 1520
+66 (0) 97 173 4831
Email : Prapun.artist@gmail.com
Line ID : iam-aum-art
FB : Prapun-artist
+++++++++
ศิลปินสองรัชสมัย คือ เป็นศิลปินต้นรัชกาลที่ ๑๐ ที่เกิดในรัชกาลที่ ๙
การรวมตัวของพวกเขาครั้งนี้ แม้จะต่างคนต่างกลุ่ม เป็นความลงตัวอย่างเหมาะเจาะ
โดยที่สมาชิกส่วนใหญ่ คุ้นชินกันมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อนเมื่อครั้งยังร่ำเรียนจนกระทั่งทุกวันนี้
ซึ่งในช่วงเวลาในรัชสมัยรัชกาลที่ ๙ ต่างคนต่างเดินไปในครรลองของตนเพื่อค้นหาฝัน และตัวตน
ได้ฝึกฝนฝีมือ มีผลงาน จัดนิทรรศการกลุ่มบ้าง เดี่ยวบ้าง รวมทั้งที่เป็นอาจารย์ศิลปะในระดับมหาวิทยาลัย
เป็นที่รู้จักและยอมรับในแวดวงศิลปินในประเทศไทย